สีของรถยนต์แบ่งออก เป็น 2 ประเภทนะคับ คือ
1. สีโรงงาน (OEM Paint)
2. สีพ่นซ่อม (Refinish Paint)
1. สีโรงงาน (OEM Paint)
2. สีพ่นซ่อม (Refinish Paint)
1. สีโรงงาน จะใช้วิธีการอบสี ด้วยความร้อนที่ 120 oC
คือตอนผลิตเค้าจะใช้แต่โครงของรถ ทำให้สามารถที่จะใช้ความร้อนขนาดนี้ได้
จึงทำให้สีมีความแข็งแรง(ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่คือว่ามันดีที่ซู๊ดแล้ว ติดได้ทนนาน มากกกก)
2. สีพ่นซ่อม (Refinish Paint) เป็นสีที่ใช้ในการซ่อมรถทั้งหลายนะคับ โดยจะแบ่งเป็น
2.1 ระบบ 1K หรือที่เรียกว่า "สีแห้งเร็ว"
2.2 ระบบ 2K หรือที่เรียกว่า "สีแห้งช้า" แต่ถึงแม้จะเรียกว่าสีแห้งช้า หากแต่เป็นสมัยก่อน นะใช่นะคับ
แต่สมัยนี้ ด้วยการที่มันพัฒนาต่อๆ มาเรื่อยๆ มันอาจจะแห้งภายในเวลาเพียง 3 - 4 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนสี 1K นั้นกำเนิดมาตั้งแต่เริ่มมีรถเลยคับ โดยได้พัฒนามาเรื่อยๆ จากสีน้ำมัน >> สีไนโตรฯ >> สีอะครีลิค
พอเป็นสีอะครีลิคแล้ว จึงได้พัฒนาเป็น 2K คือ สีอีพ๊อกซี่ และสีอะคริลิค-โพลียูรีเทน
ส่วนชั้นสีของสีโรงงานจะมี 6 ชั้นหลักๆ คือ
ชั้นแรก. เหล็ก/อลูมิเนียม + กัลวาไนซ์
ชั้นที่ 2. เคลือบ ซิงค์ ฟอสเฟต (เอาไว้สำหรับกันสนิม ซึ่งวิธีนี้สำหรับในโรงงานจะใช้การเอาโครงรถ, ชิ้นส่วนทั้งหมด จุ่มลงไปในน้ำยา)
ชั้นที่ 3. ชั้นสีรองพื้นเกาะเหล็กอีดี
ชั้นที่ 4. สีพื้นกลบรอย (เหมือนแป้งรองพื้น สำหรับแต่งหน้าของผู้หญิงนะคับ)
ชั้นที่ 5. สีจริง
ชั้นที่ 6. แลคเกอร์ / เคลียร์
ชั้นแรก. เหล็ก/อลูมิเนียม + กัลวาไนซ์
ชั้นที่ 2. เคลือบ ซิงค์ ฟอสเฟต (เอาไว้สำหรับกันสนิม ซึ่งวิธีนี้สำหรับในโรงงานจะใช้การเอาโครงรถ, ชิ้นส่วนทั้งหมด จุ่มลงไปในน้ำยา)
ชั้นที่ 3. ชั้นสีรองพื้นเกาะเหล็กอีดี
ชั้นที่ 4. สีพื้นกลบรอย (เหมือนแป้งรองพื้น สำหรับแต่งหน้าของผู้หญิงนะคับ)
ชั้นที่ 5. สีจริง
ชั้นที่ 6. แลคเกอร์ / เคลียร์
ถ้ารถคันนั้นเกิดออกจากโรงงานแล้ว คือผลิตเสร็จสับหมดแล้ว แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
จำเป็นต้องทำสีใหม่ เค้าก็จะใช้สีพ่นซ่อม เค้าก็จะมี 6 ชั้นหลักๆ เหมือนกัน คือ
ชั้นแรก. เหล็ก/อลูมิเนียม + กัลวาไนซ์
ชั้นที่ 2. สีรองพื้นเกาะเหล็ก
ชั้นที่ 3. ชั้นสีโป๊ว (เป็นชั้นที่ให้รอยที่ลึกๆ มาเรียบเนียน ซึ่งในโรงงานผลิตไม่มีนะคับ เพราะมันไม่รู้จะมีรอยอะไร)
ชั้นที่ 4. สีพื้นกลบรอย
ชั้นที่ 5. สีจริง
ชั้นที่ 6. แลคเกอร์ / เคลียร์
คุณสมบัติของสีโรงงาน (OEM Paint)
สิ่งที่สีทนได้ เช่น
- น้ำมันเบนซิล เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวนะคับ ถ้าเด็กปั๊มทำน้ำมันหกใส่ แต่ทางที่ดีก็เช็ดหน่อยก็ดีคับ
- น้ำมันดีเซล
- ความเย็นต่ำสุดที่ -30 oC
- ความร้อนสูงสุดที่ 90 oC
- ฝนกรดอ่อนๆ
- กรดอะซิตก
- รังสีอุลดร้าไวโอเลท
- ความเงาตก
สิ่งที่สีทนได้ เช่น
- น้ำมันเบนซิล เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวนะคับ ถ้าเด็กปั๊มทำน้ำมันหกใส่ แต่ทางที่ดีก็เช็ดหน่อยก็ดีคับ
- น้ำมันดีเซล
- ความเย็นต่ำสุดที่ -30 oC
- ความร้อนสูงสุดที่ 90 oC
- ฝนกรดอ่อนๆ
- กรดอะซิตก
- รังสีอุลดร้าไวโอเลท
- ความเงาตก
แต่สิ่งที่สีทนไม่ได๊ ทนไม่ได้ คือ
- ฝนกรดที่มีความเข้มข้น
- มูลนก
- น้ำกรดจากแบตเตอร์รี่
- ยางไม้
- รอยขีดข่วน
- สารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม
เหตุผลที่ทำให้สี 2K มีคุณสมบัติดีกว่าสี 1 K
การแห้งตัวของสีถือว่าเป็น ส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงคุณภาพโดยรวมของสี ซึ่งการแห้งตัวที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างองค์ประกอบ 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในเรซิ่น (RESIN) ของสี และอีกส่วนอยู่ในตัวเร่งหรือฮาร์ดเดนเนอร์ (HARDENER) นั้น ถือว่าเป็นการแห้งตัวที่ทำให้ได้ฟิล์มที่แห้งสมบูรณ์ ฟิล์มสีจึงค่อนข้างแข็งแกร่งและมีคุณสมบัติในด้านอื่นๆ ดีมาก ดังนี้
1. Durability – ความทนทาน รถยนต์ที่ซ่อมสีโดยใช้ระบบสี 2K จะคงสภาพเดิมและมีระยะเวลาคงสภาพเดิมได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
2. Weather resistance – ความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ
3. Chemical resistance – สามารถทนทานต่อสารเคมีต่างๆ ได้ดี เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรก
4. Color retention – สามารถคงสภาพสีเดิม ไม่ซีดจางจากเดิมง่าย
5. Gloss – มีความเงางามสูง
6. ให้คุณสมบัติเหมือนสีรถที่ออกจากโรงงานประกอบรถยนต์ O.E.M ( Original Equipment Manufacturing
การแห้งตัวของสีถือว่าเป็น ส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงคุณภาพโดยรวมของสี ซึ่งการแห้งตัวที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างองค์ประกอบ 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในเรซิ่น (RESIN) ของสี และอีกส่วนอยู่ในตัวเร่งหรือฮาร์ดเดนเนอร์ (HARDENER) นั้น ถือว่าเป็นการแห้งตัวที่ทำให้ได้ฟิล์มที่แห้งสมบูรณ์ ฟิล์มสีจึงค่อนข้างแข็งแกร่งและมีคุณสมบัติในด้านอื่นๆ ดีมาก ดังนี้
1. Durability – ความทนทาน รถยนต์ที่ซ่อมสีโดยใช้ระบบสี 2K จะคงสภาพเดิมและมีระยะเวลาคงสภาพเดิมได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
2. Weather resistance – ความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ
3. Chemical resistance – สามารถทนทานต่อสารเคมีต่างๆ ได้ดี เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรก
4. Color retention – สามารถคงสภาพสีเดิม ไม่ซีดจางจากเดิมง่าย
5. Gloss – มีความเงางามสูง
6. ให้คุณสมบัติเหมือนสีรถที่ออกจากโรงงานประกอบรถยนต์ O.E.M ( Original Equipment Manufacturing
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น